4 เรื่องรถที่ต้องรู้

1. เช็คลมยาง

ลมยางเป็นสิ่งสำคัญอย่างนึงที่เราจะมองข้ามไม่ได้ ล้อเดิมๆ standard จากศูนย์ จะต้องเติมลมยางตามทีอัตราที่ผู้ผลิตรถยนต์กำหนดไว้ โดยขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของรถแต่ละชนิด อัตราดังกล่าวนืทางผู้ผลิตรถยนต์จะระบุไว้ที่แผ่นโลหะหรือแผ่นสติ้กเกอร์ที่ติดไว้บริเวณเสากลางข้างตัวรถ สันประตู หรือช่องเก็บของภายในรถยนต์ นอกจากนี้ยังระบุไว้ในคู่มือการใช้รถอีกด้วย หากเป็นล้อแต่ง จะต้องคำนวนจากขนาดล้อและยาง ควรเติมลมยางตามคำแนะนำของร้านค้า ไม่ควรเติมลมอ่อนไปหรือแข็งไป จำทำให้ยางเสื่อมสภาพไวกว่าปกติ

เราควรเช็คลมยางอาทิตย์ละครั้ง และควรเช็คในขณะที่ยางเย็นอยู่ ถ้าหากเราเช็คในขณะที่ยางยังมีความร้อน อาจจะทำให้ค่าที่ได้คลาดเคลื่อน เพราะความดันในลมยางจะเพิ่มขึ้นตามอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้น ที่สำคัญอุปกรณ์ที่ใช้เช็คลมยางควรเป็นอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐาน

ในกรณี ขับรถเร็วตอนฝนตก จะต้องเติมลมยางเพิ่มอีก 2-4 ปอนด์ เพื่อให้ความดันลมยางรถยนต์ ช่วยเพิ่มแรงกดของหน้ายางรถยนต์ สามารถรีดน้ำได้ดีขึ้น

ส่วนการเดินทางไกล ควรเติมแรงดันยางรถยนต์ อีก 3-5 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว และควรที่จะลดสัมภาระที่ไม่จำเป็นออกจากรถ เหลือไว้สิ่งที่จำเป็นเท่านั้น เพราะยิ่งบรรทุกสัมภาระหนักแค่ไหน เครื่องยนต์ก็จะทำงานหนักแค่นั้น และมันยังส่งผลให้เกิดความสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงตามมาด้วย

2. ตั้งศูนย์ล้อ

การตั้งศูนย์ล้อคือการทำให้ส่วนประกอบต่างๆที่เกี่ยวข้องกับระบบบังคับเลี้ยว ระบบช่วงล่าง และยาง ทำงานสัมพันธ์กันอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้รถวิ่งได้ตรง ซึ่งระบบช่วงล่างและระบบบังคับเลี้ยวของรถนั้น มีอะไหล่ที่เคลื่อนไหวขณะรถวิ่ง และย่อมทำให้รถสึกหรอ ศูนย์ล้อจึงผิดเพี้ยน เป็นผลทำให้รถวิ่งไม่ตรง แฉลบ และอาจเกิดอุบัติเหตุตามมา ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีการตั้งศูนย์ถ่วงล้อเพื่อให้ได้ค่าตามสเป็คของรถที่กำหนดไว้

3. สลับยาง

การสลับยางทำให้ยางทุกเส้นสึกเท่าๆกัน ขณะที่ขับขี่จะได้ไม่สั่นสะเทือน เราควรสลับยางทุกๆ 10,000 กิโลเมตร หากเป็นรถใหม่ เพื่อยืดอายุการใช้งานของตัวยางออกไปได้อีก 1-2 ปี หรือ10,000-20,000 กิโลเมตร จากปกติ ยางจะมีอายุ 2 ปี หรือ 50,000 กิโลเมตร

4. การถ่วงล้อ

เราจะต้องทำการถ่วงล้อใหม่ทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนยางใหม่ การสลับยาง สลับกะทะล้อการที่รถมีศูนย์ถ่วงล้อที่ไม่ถูกต้องนั้น นอกจากจะทำให้ยางสึกแล้ว ยังทำให้ทิศทางของรถควบคุมไม่ได้อีกด้วย หากรถมีความผิดปกติในการควบคุม หรือยางที่ใช้อยู่สึก ไม่สม่ำเสมอ ควรเข้ารับการตรวจเช็คเพื่อปรับตั้งศูนย์ถ่วงล้อ

ถ้าหากยางและกะทะล้อกระจายน้ำหนักไม่ถูกต้อง จะทำให้รถที่กำลังวิ่งเกิดการสั่นสะท้าน ซึ่งส่งผลต่ออายุการใช้งานของยาง ระบบช่วงล่างของรถ รวมไปถึงความสะดวกสบายในการขับขี่ การถ่วงล้อจะช่วยให้เกิดการกระจายน้ำหนักของยาง ซึ่งสามารถทำได้ด้วยการเพิ่มน้ำหนัก ณ จุดใดจุดหนึ่งที่ขอบกะทะล้อ

จะต้องทำการถ่วงล้อใหม่ทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนยางใหม่ การสลับยาง สลับกะทะล้อ เพื่อไม่ให้ล้อมีอาการ เมื่อขณะรถวิ่งเกิดการสั่นสะเทือน เมื่อเกิดเหตุการณ์เหล่านี้ ควรส่งรถเข้ารับบริการศูนย์ถ่วงล้อ